AIS Fibre พัฒนา Wi-Fi อัจฉริยะ ครั้งแรกในเมืองไทย จาก Artificial Intelligence – AI และ Machine Learning – ML ผ่าน AI-powered Smart Router จัดสรร Data Traffic การใช้งานในบ้านให้สมาชิกในครอบครัวที่แม้จะใช้บริการต่างกัน แต่ได้ความเร็วและความหน่วงในระดับสุดยอดแบบ VIP เหมือนกัน
แพ็กเกจ POWER4 Advance มาพร้อมกับ อุปกรณ์รองรับเทคโนโลยี ใหม่ล่าสุด AI-powered Smart Router ให้ทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับแบบ VIP ไปกับ Wi-Fi อัจฉริยะ ที่มาแบบเต็มสปีด ด้วยเน็ตบ้านความเร็วดาวน์โหลด/อัพโหลดสูงสุดถึง 1000Mbps (1Gbps) พร้อมทั้งซิมมือถือ AIS 5G กล่อง AIS PLAYBOX และContent Package แบบครบครัน ในราคาสุดคุ้ม
โดยเปิดลงทะเบียนแสดงความสนใจล่วงหน้าได้ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบัน ตั้งแต่วันที่ 1-9 พ.ค. 65 และพร้อมเปิดสมัครทุกช่องทางได้ทั่วประเทศวันที่ 10 พ.ค. 65 เป็นต้นไป ที่เว็บไซต์ AIS Fibre : www.ais.th/fibre/package_power4advance.html
สำหรับ Wi-Fi อัจฉริยะนี้ มาพร้อมกับ AI-powered Smart Router ซึ่งมีจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้
1.มีฟังก์ชัน AI ช่วยคัดแยกประเภทข้อมูลบริการ เพื่อจัดลำดับการใช้งานที่สำคัญภายในบ้าน
2.เพิ่มความเร็วหน่วยประมวลผล (Network Processor) ให้สามารถจัดสรรปริมาณการใช้งาน (offload Wi-Fi traffic) พร้อมกับเพิ่มอัตราความเร็วของการใช้งานให้กับแอปพลิเคชันที่ถูกระบุเป็นลำดับสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.เพิ่มความเร็วด้วยการผสานเทคโนโลยี Wi-Fi Slicing และ Wi-Fi Multimedia ที่เข้ามาช่วยลดค่า ความหน่วง (Latency) ช่วยให้ไม่เกิดสัญญาณค้างหรือกระตุก
ในเบื้องต้น Wi-Fi อัจฉริยะ สามารถบริหารแยกท่อการใช้งานครอบคลุมใน 3 กลุ่มบริการยอดนิยม ได้แก่
1. Game Application ได้แก่ ROV, League of Legends, Free Fire, PUBG Mobile, Call of Duty, Dota 2, World of Warcraft, Overwatch, Hearthstone, CSGO, Apex Legends, FIFA20 และ Mobile Legends
2. Work & Learn Application ได้แก่ ZOOM, Microsoft Teams, Webex และ Google Meet
3. Live & Streaming Application ได้แก่ YouTube, Facebook และ Tik Tok
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า AIS Fibre เป็นรายแรกและรายเดียวที่นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดมาให้บริการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น SpeedBOOST, Speed Toggle, Mesh Wi-Fi, การให้บริการภายใน 24 ชั่วโมง หรือ การยกระดับมาตรฐานความเร็วเน็ตบ้านไปที่ 2 Gbps ซึ่งนอกจากจะตอบสนองความต้องการผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมบรอดแบรนด์ของไทยให้เทียบเท่าระดับสากลอีกด้วย
“โดยล่าสุดได้ทุ่มเท คิดค้น วิจัย นำ Artificial Intelligent หรือ AI และ Machine Learning เข้ามาพัฒนาใน Router ให้สามารถบริหาร จัดการ data traffic แบ่งช่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบแยกท่อพิเศษ หรือ VIP Service ทั้งคำนวณการให้ลำดับความสำคัญในการเพิ่มสปีดความเร็วในการรับส่งข้อมูล และสามารถลดความหน่วง หรือ Latency ได้ถึง 50% อย่างมีประสิทธิภาพด้วยตัวเอง เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานให้สมาชิกในบ้านที่แม้จะใช้บริการต่างกัน แต่จะได้คุณภาพบริการที่สุดยอดต่อเนื่องเสมอ”