ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เปิดตัว “ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่” อย่างเป็นทางการ ในวันที่ตลาดรถยนต์ขนาดกลางกึ่งใหญ่เริ่มมีความนิยมน้อยลง เพราะเอสยูวีขนาดคอมแพ็คเริ่มเข้ามาแทนที่ ด้วยอรรถประโยชน์ใช้สอยที่มากกว่า มีความสูงเหมาะกับการใช้งานบนถนนเมืองไทยมากกว่า
รวมไปถึงขณะนี้เริ่มมีรถซีดานไฟฟ้าเข้ามาเป็นทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ทั้งแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และแบรนด์น้องใหม่มาแรง ยิ่งทำให้การทำตลาดครั้งนี้ไม่น่าจะง่ายนัก ซึ่งฮอนด้าเองก็น่าจะรู้ในเรื่องนี้ จึงได้จัดออปชันและเทคโนโลยีกันแบบเต็มที่ รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกกันแบบเรียกได้ว่า “นี่ฮอนด้า” จริงเหรอ
ฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่นใหม่นี้มาพร้อมระบบฟูลไฮบริด e:HEV ทั้ง 3 รุ่นย่อย ไม่มีรุ่นเทอร์โบอีกต่อไป เพื่อก้าวสู่รถพลังงานใหม่ (xEV) ซึ่งแน่นอนว่าเทคโนโลยี e:HEV ของฮอนด้านี้ ไม่ใช่แค่ให้ความประหยัดเท่านั้น แต่มาพร้อมกับความแรงที่แสดงให้เห็นแล้วในหลาย ๆ รุ่น
นอกจากนี้ยังมาพร้อมหลากหลายเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เพื่อความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง อาทิ อาทิ Google built-in ปุ่ม Experience Selection Dial ที่เลือกปรับได้ดั่งใจ ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง
ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ขนาด 11.5 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายและรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ช่องเชื่อมต่อ USB Type C 4 ตำแหน่ง อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) เป็นต้น ครั้งแรกในโลกกับรุ่น e:HEV RS ที่เสริมความสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้นในดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน มาพร้อมหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED Sequential และระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card เป็นต้น
เรียกได้ว่างานนี้เทคโนโลยีใด ๆ ที่รถในตลาดมี ฮอนด้าใส่มาให้เกือบหมด ดึงสาวกแบรนด์รอยัลตี้ให้คงอยู่ไม่หนีไปไหน แถมยังอาจจะได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ที่กำลังลังเลว่าจะเปลี่ยนเป็นรถพลังงานไฟฟ้าล้วนเลยดีไหม หรือจะลองใช้แบบไฮบริดแรง ๆ ไปก่อน รออีกสักพักค่อยไปใช้รถไร้มลพิษ 100%
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,993 ซีซี. กำลังสูงสุด 147 แรงม้า (PS) ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 182 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที รองรับน้ำมันสูงสุด Gasohol E20 ความจุถังน้ำมัน 48.5 ลิตร
ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous Permanent Magnet Electric Motor 2 ตัว ประกอบด้วยมอเตอร์ Generator และมอเตอร์ขับเคลื่อน พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion พละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 – 6,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร ที่ 0-2,000 รอบ/นาที รวมพละกำลังสูงสุดทั้งระบบ 207 แรงม้า (PS)ฮอนด้าเคลมว่า ประหยัดน้ำมันสูงถึง 25 กม./ลิตร
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ ราคาจำหน่าย รุ่น e:HEV E 1,529,000 บาท รุ่น e:HEV EL ราคา 1,669,000 บาท และรุ่น e:HEV RS ราคา 1,799,000 บาท
มาพร้อมสีภายนอกให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก) พร้อมภายในสีดำ และสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
นอกจากนี้ยังมาพร้อม ข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2566 – 31 ธันวาคม 2566 รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.29% พร้อมรับ Honda Exclusive Care (ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์) ประกอบด้วย ฟรีประกันภัย 1 ปี
ฟรีรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
ฟรี Honda Ultimate Care (ฮอนด้า อัลติเมท แคร์) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมงอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร ต่อจากการรับประกันคุณภาพรถใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร สิ้นสุด รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
นอกจากนี้เพื่อไม่ให้ลูกค้าหนีไปแต่งรถเพิ่มกับบริษัทภายนอก ฮอนด้าจึงเตรียมชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) ที่มาพร้อมแนวคิด “The Premium Sedan” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิ คิ้วบันไดไดนามิก LED ราคา 6,500 บาท ชุดโลโก้ Accord และ H Mark หลังสีดำ ราคา 1,500 บาท
คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 2,200 บาท ชุดฝาปิดจุกลม H Mark ราคา 850 บาท และฟิล์มกันรอยบริเวณขอบประตู ราคา 1,200 บาท หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่ Aero Smart Package ราคา 29,990 บาท ประกอบด้วยสเกิร์ตหน้า สเกิร์ตหลัง และสเกิร์ตข้าง
Aero Sport Package ราคา 39,500 บาท (สำหรับรุ่น e:HEV E และ e:HEV EL) ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตหลัง สเกิร์ตข้าง และสปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต Film Package ราคา 1,700 บาท ประกอบด้วยฟิล์มกันรอยบริเวณที่เปิดประตู และฟิล์มกันรอยกันชนหลัง เรียกได้ว่ามีให้เลือกติดตั้งกันตั้งแต่ยังไม่ออกจากศูนย์แบบไม่ต้องไปเพิ่มเติมที่ไหน
นายฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด นับเป็นรถที่สำคัญรุ่นหนึ่งของฮอนด้า ในฐานะแฟลกชิปโมเดลทั้งในระดับโลกและประเทศไทย ที่นำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยใหม่ ๆ มาโดยตลอด
“โดยฮอนด้า ให้ความสำคัญกับการทำตลาดในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นที่รถยนต์ไฮบริดเป็นหลัก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มใหญ่ ดังจะเห็นได้จากสัดส่วนของการขายรถยนต์ไฮบริดที่มากที่สุดในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ในตลาดรถยนต์รวมในประเทศไทย”
นับจากนี้คงต้องดูการทำตลาดของฮอนด้านับจากนี้ ว่าจะมีโปรโมชันดึงดูดใจอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ในวันที่ตลาดมีคู่แข่งเข้ามามากมาย และทุกค่ายต่างก็พร้อมที่จะเข้าถึงใจลูกค้ากันแบบเต็มที่ ไม่มีใครยอมใคร