เอสเอพี ไทย เดินกลยุทธ์ คลาวด์ยืนหนึ่ง พร้อมขับเคลื่อนความยั่งยืน

Spread the love

 

เอสเอพี ประเทศไทย ประกาศแผนธุรกิจครั้งสำคัญ กับกลยุทธ์ ‘คลาวด์ยืนหนึ่ง’ (Cloud Only Strategy) ตอกย้ำสถานะผู้นำบริการโซลูชั่นคลาวด์ เร่งหนุนองค์กรธุรกิจ ภาครัฐ ปรับกระบวนการทำงาน ยกเครื่องทางดิจิทัลบนระบบคลาวด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ สร้างความยืดหยุ่น คล่องตัวแบบไร้รอยต่อ

 

เผยแนวคิด ‘Intelligent, Sustainable Enterprise’ คือ วิถีใหม่ของการดำเนินธุรกิจ นอกเหนือจากการบริหารจัดการอย่างชาญฉลาดและสร้างผลกำไร จะต้องตระหนักถึงผลกระทบของสิ่งแวดล้อม สังคมและความยั่งยืนไปพร้อมกัน

 

 

โดยผลพวงจากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา เอสเอพี ประเทศไทย มองว่า มี 3 บทเรียนสำคัญที่ภาคธุรกิจ ควรนำเอามาเป็นหลักยึดในการทบทวนกลยุทธ์ รวมถึงเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินงาน เมื่อต้องเผชิญกับภาวะหยุดชะงัก (Disruption) ทางธุรกิจ อันได้แก่ ความยืดหยุ่นในการทำงาน, ความต่อเนื่องทางธุรกิจ และ ความยั่งยืนสร้างการเติบโตด้วยระบบคลาวด์

 

หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ประเทศไทยจะอยู่ในยุคทองของการทำ Digital Transformation และโซลูชั่นคลาวด์ คือ คำตอบของการพลิกโฉมธุรกิจ ซึ่งข้อมูลจาก Gartner ได้คาดการณ์การใช้จ่ายด้านโซลูชั่นคลาวด์สาธารณะของผู้ใช้งาน End-user ทั่วโลก ปี 2565 จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20.4% คิดเป็น 494.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ มูลค่าใช้จ่ายบริการคลาวด์ของไทยปีนี้ จะเติบโตเพิ่มขึ้น 36.6% คิดเป็นมูลค่า 40.8 พันล้านบาท

 

ล่าสุด เอสเอพี ได้ประกาศผลประกอบการทั่วโลก ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 โดยธุรกิจคลาวด์ ยังคงมีโมเมนตัมการเติบโตต่อเนื่อง บริการโซลูชั่นบนระบบคลาวด์ของ เอสเอพี มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น ด้วยรายได้สูงขึ้นกว่า 31% และ 25% ณ อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Constant Currencies : CC) สำหรับรายได้ของโซลูชั่นคลาวด์ SAP S/4HANA พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ กว่า 78% และ 71% ณ อัตราแลกเปลี่ยนคงที่

 

เอทูล ทูลิ กรรมการผู้จัดการ เอสเอพี อินโดไชน่า กล่าวว่า โควิดเป็นตัวเร่งให้ภาคธุรกิจ ตลอดจนภาครัฐ หันมาให้ความสำคัญกับการทำ Digital Transformation และ การใช้งานโซลูชั่นบนระบบคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อปูทางสู่ความยั่งยืน รวมถึงยกระดับการทำงานท่ามกลางความไม่แน่นอน องค์กรธุรกิจจึงจำเป็นต้องมองหาระบบ ERP บนคลาวด์ ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ ครอบคลุมการดำเนินธุรกิจแบบ end-to-end สามารถวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ และวางแผนรับมือได้ทันท่วงที

 

“ปัจจุบัน ธุรกิจยังสามารถย้ายการใช้งานไปยังระบบคลาวด์ได้อย่างง่ายดาย พร้อมความสามารถในการปรับขนาดตามการใช้งาน เพื่อลดต้นทุนการเป็นเจ้าของ (TCO) สำหรับก้าวต่อไปในการเดินหน้ากลยุทธ์ ‘คลาวด์ยืนหนึ่ง’ (Cloud Only Strategy) นี้ จะผลักดันให้อัตราการเติบโตบริการโซลูชั่นบนระบบคลาวด์เฉลี่ยต่อปีแบบทบต้นของ เอสเอพี ประเทศไทย สู่ 51% ภายในปี 2568”

 

 

ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญเร่งด่วนของประเทศในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืนมากขึ้น พร้อมกันนี้ บริษัทต่างๆ ในประเทศไทยควรปรับกระบวนทัศน์การทำธุรกิจ จาก เศรษฐกิจแบบเส้นตรง (Linear Economy) ซึ่งผลิตของเสียมากกว่า 91% ผ่านการผลิตแบบดั้งเดิม มาเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ด้วยวิธีการที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่และลดของเสียให้น้อยที่สุด

 

กุลวิภา ประดิษฐผลเลิศ ผู้อำนวยการธุรกิจทั่วไป เอสเอพี อินโดไชน่า กล่าวว่า เอสเอพี มีความเชี่ยวชาญในการใช้ประโยชน์จากเรียลไทม์ดาต้า ผสานเข้ากับเทคโนโลยี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้องค์กรมองไปข้างหน้าและสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตควบคู่ไปกับการพัฒนาความยั่งยืน ที่ผ่านมา เราสนับสนุนลูกค้าหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจค้าปลีก, Healthcare, เคมีภัณฑ์, E-Commerce เป็นต้น

 

ผนวกโซลูชั่นครอบคลุมตั้งแต่งานด้าน Supply Chain, ระบบจัดซื้อ, บริหารทรัพยากรบุคคล ไปจนถึง โซลูชั่นบริหารประสบการณ์ลูกค้า ล่าสุด เอสเอพี ประเทศไทย ยังได้ร่วมมือกับ South City Group เริ่มใช้งานโซลูชั่น RISE with SAP ที่เน้นข้อมูลเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน

 

เอสเอพี มุ่งมั่นช่วยให้โลกดำเนินงานได้ดีขึ้นและปรับปรุงชีวิตของผู้คน จึงดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมด้วยแนวทาง “Chasing Zero” ได้แก่ การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์, การสร้างของเสียเป็นศูนย์ และ ผลักดันความไม่เท่าเทียมกันเป็นศูนย์ นอกจากนี้ ยังได้เดินหน้าเสริมศักยภาพเยาวชน ผ่านโครงการมากมาย

 

ทั้งการร่วมกับมูลนิธิอาเซียน จัดการแข่งขัน ASEAN Data Science Explorers ติดอาวุธทางดิจิทัลและทักษะที่จำเป็น ให้แก่เยาวชนในอาเซียนมากกว่า 32,000 คน รวมถึง โครงการ SAP University Alliances นำโซลูชั่นของ เอสเอพี ไปใช้ในหลักสูตรผ่านเครือข่ายสถาบันการศึกษามากกว่า 80 แห่งทั่วอาเซียน

 

 

การก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านคลาวด์เทคโนโลยีนั้น ถือเป็นพันธกิจสำคัญของ เอสเอพี ในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนทางธุรกิจ ตลอดจนความต้องการของลูกค้า ก่อนหน้านี้ กลุ่มธุรกิจ Mid Market และ SMEs อาจมีข้อเสียเปรียบในการเข้าถึงระบบเทคโนโลยีได้น้อยกว่าองค์กรขนาดใหญ่ และเผชิญความท้าทายด้านความผันผวนของแรงงาน อย่างไรก็ตาม

 

ปัจจุบันโซลูชั่นคลาวด์ของ เอสเอพี มีส่วนเปิดกว้างให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้เท่าเทียมองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยทางเลือกบริการแบบ Subscription และการลงทุนที่น้อยกว่า

 

จากผลการศึกษาล่าสุดของ เอสเอพี ในหัวข้อ “Transformational Talent: The impact of the Great Resignation on Digital Transformation in APJ’s SMEs” เจาะลึก SMEs ไทย พบ 68% มองว่าพาร์ทเนอร์ทางเทคโนโลยีที่สามารถช่วยในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้นั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดย 66% ของ SMEs ไทย ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นดำเนินงานกับพาร์ทเนอร์ทางเทคโนโลยีได้อย่างไร

 

การศึกษานี้เผยให้เห็นว่า กลุ่มพนักงาน และเทคโนโลยี จะกลายเป็นหัวใจหลักขับเคลื่อน SMEs นอกเหนือไปจากความยืดหยุ่นในการทำงาน การปรับตัวทางดิจิทัลจะทำให้ SMEs สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ดำเนินงานได้ฉับไว เมื่อวางกลยุทธ์ที่ใช่ ผสาน Mindset ที่เปิดกว้าง และ เลือกพันธมิตรทางธุรกิจรวมถึงเทคโนโลยีที่เหมาะสม จะช่วยให้ SMEs ไทย เดินหน้าต่อไปได้

 

นพดล เจริญทอง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจตลาดขนาดกลาง (Mid Market) เอสเอพี อินโดไชน่า กล่าวว่า เรามีพาร์ทเนอร์ทางเทคโนโลยีมากกว่า 70 รายที่คอยให้คำแนะนำและช่วยในการดำเนินงานตลอดจนติดตั้งระบบของ เอสเอพี ที่สำคัญลูกค้ากว่า 80% ของ เอสเอพี ทั่วโลกเป็นกลุ่ม SMEs แน่นอนว่า ในประเทศไทย เราได้ดำเนินงานช่วยเหลือลูกค้ากลุ่ม SMEs ให้เริ่มต้นเส้นทางการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลสู่การเป็น Intelligent, Sustainable Enterprise อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

 

RISE with SAP โซลูชั่นคลาวด์ที่ครอบคลุมการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจแบบองค์รวม สามารถปรับขนาด ยืดหยุ่นตามความต้องการและรูปแบบธุรกิจของลูกค้า นอกจากนี้ โซลูชั่น SAP Cloud for Sustainable Enterprises เป็นโซลูชั่นที่สามารถช่วยบริษัทต่างๆ ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมด้วย การวิเคราะห์จากข้อมูลเชิงลึก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านความยั่งยืน

 

Scroll to Top