สกช.โชว์ผลงาน 6 เดือน นโยบาย ‘3 เปลี่ยน 3 สร้าง 3 ปรับ’

Spread the love

 

สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดแผนดำเนินงานปี 2567 รุกสร้างเครือข่ายเกษตรกรระดับหมู่บ้านครอบคลุมทั่วไทย ปลุกพลังขับเคลื่อนเร่งแก้ปัญหา 

 

นัยฤทธิ์ จำเล ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ (สกช.) กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติสภาเกษตรกรแห่งชาติพ.ศ.2553 มีหน้าที่คุ้มครองและรักษาประโยชน์ของเกษตรกรทั้งในการผลิตการแปรรูปและการตลาด ส่งเสริมให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนสูงสุดรวมทั้งเพื่อวางแผนเกษตรกรรมและรักษาผลประโยชน์ร่วมกันของเกษตรกรเพื่อสนับสนุนสิทธิและการมีส่วนร่วมของเกษตรกรในการกำหนดนโยบายและวางแผนพัฒนาเกษตรกรรมอย่างเป็นระบบจากความต้องการของเกษตรกรที่แท้จริง

 

ทั้งนี้หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้นำเสนอนโยบาย ‘3 เปลี่ยน 3 สร้าง 3 ปรับ’ เพื่อให้องค์กรเกษตรกรสร้างการเปลี่ยนแปลง พร้อมพัฒนาภาคเกษตรกรของประเทศ โดย 3 เปลี่ยน คือ 1.เปลี่ยนสภาของเกษตรกร โดยเกษตรกร เพื่อเกษตรกร อย่างแท้จริง ทั้งหลักคิด หลักการและหลักปฏิบัติ ซึ่งผ่านไป 6 เดือน ได้มีการดำเนินงานจัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์เกษตรกรในสำนักงานสภาเกษตรกรทุกจังหวัดเพื่อรับฟังปัญหาแล้วสู้นำมาเพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ไขอย่างรวดเร็วและทำงานแบบเชิงรุกมากขึ้น

 

2.เปลี่ยนข้อบังคับและระเบียบที่เป็นอุปสรรค ให้สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ. สภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ. 2553 โดยได้ดำเนินการกำหนดปรับปรุงแก้ไขระเบียบข้อบังคับต่างๆ บางส่วนอย่างเหมาะสมและให้ทันกับสถานการณ์การทำงานโดยมีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นโดยเฉพาะตามความรู้และเฉพาะด้าน

 

และ 3.เปลี่ยนรูปแบบและวิธีดำเนินงานของสภาเกษตรกรให้ ‘เร็วรุก สนุกกับงาน คนสำราญ งานสำเร็จ’ โดยรวมวิธีร่วมกันคิดร่วมกันทำร่วมกันรับผิดชอบร่วมรับประโยชน์โดยได้รับความร่วมมือจากพนักงานทุกภาคส่วนสร้างสรรค์แนวคิดในการทำงาน ในส่วนนี้ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

 

ส่วนนโยบาย ‘3 สร้าง’ ได้แก่ 1.สร้างทีมงานบริหาร ทีมงานขับเคลื่อนงาน พัฒนาบุคลากรสู่ความเป็นมืออาชีพ และเข้มแข็งอย่างเร่งด่วน ได้ดำเนินการแก้ปัญหาในหลายเรื่อง เช่น ปัญหาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ปัญหาปลาหมอสีคางดำ สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้สำรวจปัญหาและการแพร่ขยายระบาดของปลาหมอสีคางดำในพื้นที่ต่างๆ ทั้ง 77 จังหวัด มีการประสานงานกับสำนักงานประมงพื้นที่ และปัญหาราคาปลากะพงตกต่ำโดยกรมประมงเสนอการใช้มาตรการควบคุมการนำเข้าปลากะพงขาวแช่เย็นที่นำเข้าจากมาเลเซีย เป็นต้น

 

2.สร้างเครือข่ายเกษตรกรให้เข้มแข็งเพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนทุกระดับทุกมิติให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพและบูรณาการ โดยส่วนนี้ได้ดำเนินการแล้ว 80% ในการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถสร้างเครือข่ายเกษตรกรให้เข้มแข็งที่มีในระดับหมู่บ้าน ครบทั้ง 75,032 หมู่บ้านทั่วประเทศ

 

3.สร้างต้นทุนองค์กรให้เป็นที่เชื่อถือและยอมรับของมวลชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกับรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันสภาเกษตรกรแห่งชาติสภาเกษตรกรจังหวัดทุกจังหวัดประสานงานหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมากขึ้นในการร่วมมือแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรทั่วประเทศ

 

และนโยบาย ‘3 ปรับ’ ได้แก่ 1.ปรับรูปแบบและโครงสร้างคณะกรรมการใหม่ ให้มีบทบาทที่ชัดเจนตลอดห่วงโซ่อุปทานของภาคการเกษตรเพื่อการทำหน้าที่บูรณาการการแก้ไขปัญหาภาคการเกษตร ปรับลดจาก 15 คณะ เหลือ 6 คณะ 2.ปรับรูปแบบและปรับแนวคิด ทัศนคติ ของสมาชิกและบุคลากรให้เป็นหนึ่งเดียวรู้รักสามัคคี มองเป้าหมายองค์กรเป็นตัว และ3.ปรับรูปแบบและโครงสร้างสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เพื่อให้องค์กรบรรลุเป้าหมายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

สนับสนุนเกษตรกรไทยต่อเนื่อง

 

ขณะที่การดำเนินงานต่อเนื่องต่อจากนี้ หลังจากมีการประชุมสภาเกษตรกรแห่งชาติแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งได้มีการนำเสนอและหารือเกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของเกษตรกร และผ่านการพิจารณาของสภาเกษตรกรแห่งชาติ จำนวน 17 เรื่อง และข้อเสนอเชิงนโยบาย จำนวน 6 เรื่อง ประกอบด้วย 1.ข้อเสนอเชิงนโยบายการพัฒนาปศุสัตว์ สู่ความยั่งยืน 2.ข้อเสนอเชิงนโยบายแนวทางแก้ไขปัญหาและพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน ของสภาเกษตรกรจังหวัดกลุ่มภาคกลาง

 

3.ข้อเสนอการจัดตั้งกองทุนชาวสวนทุเรียน และการผลักดันร่างพระราชบัญญัติกองทุนทุเรียนไทย 4.ข้อเสนอเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาเกษตรกรไม่มีเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 5.ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อกำหนดแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาการทำประมงพื้นบ้าน 6.ข้อเสนอเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาราคาปลากะพงตกต่ำ

 

กิจกรรมเพื่อสาธารณะ

 

สำหรับงานการดำเนินงานกิจกรรมสาธารณะนั้น สภาเกษตรกรแห่งชาติได้ดำเนินงานกิจกรรมสาธารณะ และการช่วยเหลือด้านต่างๆแก่สังคมและเกษตรกรที่ประสบกับปัญหาจากภัยธรรมชาติ ดังนี้

 

1.โครงการจิตอาสาพัฒนาสาธารณประโยชน์ ‘เราทำความดีด้วยหัวใจ’ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสภาเกษตรกรแห่งชาติ ครบรอบ 13 ปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 2.พิธีรวมใจถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดทั่วประเทศ

 

3.การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยมอบข้าวสารให้จังหวัดละ 550 กระสอบ และถุงยังชีพ 120 ชุด และ4.การช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในภาคอีสาน (ร้อยเอ็ด ยโสธร) โดยร่วมกับชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด และชมรมรถบรรทุกฟางก้อน สนับสนุนฟางอัดก้อน จำนวน 6,000 ก้อน และน้ำดื่ม 10,000 ขวด

 

“สภาเกษตรกรแห่งชาติหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของเกษตรกร และความร่วมมือของทุกภาคส่วน จะทำให้เกษตรกรรมไทยเติบโต ก้าวหน้า ผลิตอาหารปลอดภัยสู่บริโภคทั้งภายในประเทศ และส่งออกให้กับคนทั่วโลกได้มากขึ้น ถือเป็นก้าวย่างแห่งความมั่นคงทางอาหารสู่ความมั่งคั่งของเกษตรกรไทย” ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าว

Scroll to Top